eBay ค้าขายออนไลน์ไม่จำกัด
ปรากฏการณ์ของอีเบย์ในอินเทอร์เน็ตกำลังสั่นสะเทือนรูปแบบการทำธุรกิจในสหรัฐฯ
ปรากฏการณ์ของอีเบย์ในอินเทอร์เน็ตกำลังสั่นสะเทือนรูปแบบการทำธุรกิจในสหรัฐฯ
ชารอน บัลโควิช เปิดแผงขายของเก่าในเมืองบิสมาร์ก รัฐนอร์ทดาโคตา ร้านเธอค่อนข้างเงียบเหงาเพราะเมืองเล็กๆแห่งนี้มีลูกค้าน้อยและสินค้าก็ขายได้ในราคาต่ำ เธอจึงเริ่มนำสินค้าไปประมูลในเว็บไซต์อีเบย์ ซึ่งเป็นการผันตัวเองเข้าสู่ตลาดระดับโลกทันที ที่เขี่ยบุหรี่แบบอาร์ตเดกโคซึ่งซื้อมาในราคา 20 เหรียญ ราคาประมูลพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว และขายได้ 290 เหรียญ แจกันราคา 5 เหรียญเปลี่ยนมือไปเมื่อมีผู้เสนอซื้อในราคา 585 เหรียญ
กระทั่งรถแทรกเตอร์ที่ใช้แล้ว เธอก็ขายให้พระในนิวยอร์กด้วยราคา 2,499 เหรียญ บัลโควิชได้รับเช็คจากผู้ซื้อทั่วโลก "ก่อนหน้านี้ ฉันขายของได้อย่างมากเดือนละ 15 ชิ้น" เธอกล่าว "แต่เดี๋ยวนี้ สินค้า 15 ชิ้น ขายได้ภายในชั่วโมงเดียว"
ขอต้อนรับสู่การปฏิวัติของอีเบย์ (eBay) เว็บไซต์การประมูลเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่แรงที่สุด ผู้ร่วมประมูลออนไลน์แข่งขันกันเสนอราคาเพื่อเป็นเจ้าของเตาอบใหม่ และกล้องจุลทรรศน์ใช้แล้ว นอกจากนี้ยังมีการประมูลของเฉพาะกลุ่ม เช่น ของที่ระลึกสำหรับแฟนภาพยนตร์ และมีกระทั่งเว็บไซต์ที่นำรายได้จากการประมูลไปบริจาคเพื่อการกุศล
รายได้จากธุรกิจที่เริ่มมา 15 ปีเป็นที่แน่นอน แต่คาดว่าจะทำเงินถึง 8,500 ล้านเหรียญในปีนี้ และทะยานเป็น 12,000 ล้านเหรียญในปีหน้า โดยอีเบย์เป็นเว็บไซต์ที่มีบทบาทสำคัญในตลาดประมูลออนไลน์ มียอดผู้ลงทะเบียนเข้ามาใช้บริการแล้วประมาณ 20ล้านคน มีการประมูลของไปแล้วกว่า 10ล้านชิ้น และยังท้าทายความเชื่อที่ว่าธุรกิจในอินเทอร์เน็ตต้องขาดทุนเสียก่อน ด้วยการทำกำไรตั้งแต่เดือนแรก ห้าปีต่อมาหลังจากก่อตั้ง อีเบย์มีมูลค่าหุ้นมากกว่าห้างร้านชื่อดังอย่าง เคมาร์ต เจซีเพนนี และนีแมนมาร์คัส รวมกันเสียอีก
ขณะนี้มีผู้พยายามแย่งส่วนแบ่งตลาดประมูลสินค้า เว็บไซต์ของ yahoo และ Amazon ก็เปิดบริการประมูลมาแข่งกับ eBay นอกจากนี้ Microsoft DELL และบริษัทอื่นอีกกว่า 100 บริษัทยังต่อเชื่อมเว็บไซต์เข้ากับแฟร์มาร์เก็ตเน็คเวิร์ก (Fair Market Network) ซึ่งเป็นสมาคมการประมูลแห่งใหม่
การประมูลออนไลน์กำลังสั่นสะเทือนรูปแบบการทำธุรกิจในสหรัฐฯ มีหลายคนลาออกจากงานประจำมาขายของในอินเทอร์เน็ต ร้านค้าปลีกเริ่มนิยมใช้การประมูลออนไลน์มาเพิ่มยอดขาย แม้ความเหนือชั้นของอีเบย์จะยังไม่ส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นทำให้พ่อค้าคนกลางตกงาน แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ รูปแบบการซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตกำลังไปได้ฉิว
แท่งลูกอมเพซ
เรื่องนี้เริ่มขึ้นจากแท่งใส่ลูกอมยี่ห้อ "เพซ" กับผู้ชายชื่อ ปิแอร์ โอมิดยาร์ เขาเกิดที่กรุงปารีสเมื่อปี 2510 และเดินทางไปสหรัฐฯตอนอายุ 6 ขวบ โอมิดยาร์สนใจคอมพิวเตอร์มาก ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย จากนั้นจึงเข้าศึกษาคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยทัฟต์ "ผมเป็นเด็กบ้าคอมฯครับ" โอมิดยาร์กล่าว หลังจบชั้นปีที่ 3 เขาย้ายไปฝึกงานแถวซานฟรานซิสโก แล้วไม่ได้กลับไปเรียนต่ออีกเลย
รายได้จากธุรกิจที่เริ่มมา 15 ปีเป็นที่แน่นอน แต่คาดว่าจะทำเงินถึง 8,500 ล้านเหรียญในปีนี้ และทะยานเป็น 12,000 ล้านเหรียญในปีหน้า โดยอีเบย์เป็นเว็บไซต์ที่มีบทบาทสำคัญในตลาดประมูลออนไลน์ มียอดผู้ลงทะเบียนเข้ามาใช้บริการแล้วประมาณ 20ล้านคน มีการประมูลของไปแล้วกว่า 10ล้านชิ้น และยังท้าทายความเชื่อที่ว่าธุรกิจในอินเทอร์เน็ตต้องขาดทุนเสียก่อน ด้วยการทำกำไรตั้งแต่เดือนแรก ห้าปีต่อมาหลังจากก่อตั้ง อีเบย์มีมูลค่าหุ้นมากกว่าห้างร้านชื่อดังอย่าง เคมาร์ต เจซีเพนนี และนีแมนมาร์คัส รวมกันเสียอีก
ขณะนี้มีผู้พยายามแย่งส่วนแบ่งตลาดประมูลสินค้า เว็บไซต์ของ yahoo และ Amazon ก็เปิดบริการประมูลมาแข่งกับ eBay นอกจากนี้ Microsoft DELL และบริษัทอื่นอีกกว่า 100 บริษัทยังต่อเชื่อมเว็บไซต์เข้ากับแฟร์มาร์เก็ตเน็คเวิร์ก (Fair Market Network) ซึ่งเป็นสมาคมการประมูลแห่งใหม่
การประมูลออนไลน์กำลังสั่นสะเทือนรูปแบบการทำธุรกิจในสหรัฐฯ มีหลายคนลาออกจากงานประจำมาขายของในอินเทอร์เน็ต ร้านค้าปลีกเริ่มนิยมใช้การประมูลออนไลน์มาเพิ่มยอดขาย แม้ความเหนือชั้นของอีเบย์จะยังไม่ส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นทำให้พ่อค้าคนกลางตกงาน แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ รูปแบบการซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตกำลังไปได้ฉิว
แท่งลูกอมเพซ
เรื่องนี้เริ่มขึ้นจากแท่งใส่ลูกอมยี่ห้อ "เพซ" กับผู้ชายชื่อ ปิแอร์ โอมิดยาร์ เขาเกิดที่กรุงปารีสเมื่อปี 2510 และเดินทางไปสหรัฐฯตอนอายุ 6 ขวบ โอมิดยาร์สนใจคอมพิวเตอร์มาก ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย จากนั้นจึงเข้าศึกษาคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยทัฟต์ "ผมเป็นเด็กบ้าคอมฯครับ" โอมิดยาร์กล่าว หลังจบชั้นปีที่ 3 เขาย้ายไปฝึกงานแถวซานฟรานซิสโก แล้วไม่ได้กลับไปเรียนต่ออีกเลย
กลางปี 2538 แพม ภรรยาในอนาคตของเขา ซึ่งสะสมแท่งลูกอมเพซ บ่นถึงความลำบากในการหาคนแลกเปลี่ยนของด้วย ในย่านซานฟรานฯ โอมิดยาร์ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกอีคอมเมิร์ซ (เขาร่วมก่อตั้ง อีช็อป ซึ่งไมโครซอฟท์ซื้อไป) ตั้งข้อสังเกตุว่า "สถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ต่างก็มีข้อมูลลึกๆกันทั้งนั้น" เขาทุ่มเทความคิดว่าจะใช้อินเทอร์เน็ตสร้างตลาดที่เป็นธรรมมากขึ้นได้อย่างไร และแท่งลูกอมเพซก็ทำให้เขาเห็นทางสว่าง เว็บไซต์การประมูลที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลเดียวกันคือ ตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ปลายปี 2538 โอมิดยาร์เปิดเว็บไซต์การประมูลโดยใช้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ทางบ้าน ที่คิดค่าใช้จ่ายเพียง 30 เหรียญต่อเดือน ในตอนแรกทุกอย่างให้บริการฟรี แต่มีผู้สนใจมากจนผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตคิดเงินกับโอมิดยาร์เพิ่มเป็น 250 เหรียญต่อเดือน เขาจึงเริ่มคิดค่าธรรมเนียมในการนำเสนอสินค้าแต่ละชิ้น และหักเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้าจากราคาขายสุดท้าย
ค่าบริการที่ส่งไปทางจดหมายถึงโอมิดยาร์ในแต่ละวันอาจดูน้อยนิด บางฉบับมีเพียงเหรียญ 10 เซ็นต์ที่ติดบนกระดาษแข็งที่ส่งมา แต่ทว่ามีจดหมายเข้ามาเป็นกองพะเนิน ในเดือนแรก เขามีรายได้ 1,000 เหรียญซึ่งมากกว่าค่าดำเนินการเสียอีก โอมิดยาร์รู้ว่าเขากำลังเดินมาถูกทาง เมื่อใส่ปากกาเลเซอร์ราคา 30 เหรียญ ซึ่งระบุว่าใช้การไม่ได้ ไว้ในรายการประมูล โดยตั้งราคาเริ่มประมูลไว้ 1 เหรียญ การประมูลเริ่มขึ้นและคนสุดท้ายที่ได้ไป จะต้องจ่ายถึง 14 เหรียญ ขณะเดียวกันรายได้ของเว็บไซต์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็น 2,500 เหรียญในเดือนที่ 2 จากนั้นเป็น 5,000 เหรียญ และ 10,000 เหรียญ ในอดีต
รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา
ในไม่ช้าโอมิดยาร์ก็พบว่า เขาตกอยู่ในฐานะคนกลางระหว่างปัญหาของผู้ซื้อกับผู้ขาย โอมิดยาร์เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันฉันมิตร เขาตัดสินใจว่าถ้าสมาชิกอีเบย์อยากร้องทุกข์ ก็ควรทำอย่างเปิดเผยบนเว็บไซต์ และถ้าผู้ค้าขายจะต่อว่าคนที่ไม่ชอบ ก็ควรจะชมเชยคนที่ชอบด้วย
และนั่นคือจุดกำเนิดของเวทีสะท้อนความคิด (Feedback Forum) หนึ่งในบริการยอดนิยมของอีเบย์ ซึ่งมีปรัชญาว่า ทุกคนเป็นคนดี หากใครทำผิด ก็ควรได้รับประโยชน์จากการรู้ถึงความผิดนั้นด้วย "ผมกลัวว่ามันจะกลายเป็นเวทีที่มีแต่คนบ่น แต่แปลกใจที่พบว่า ผู้คนชอบชมเชยกันมากกว่า" เขากล่าว
ไม่นานนักโอมิดยาร์ก็ชวน เจฟ สโกล ซึ่งจบปริญญาโทการบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมาร่วมงานด้วย พวกเขาจ้างเจ้าหน้าที่เทคนิค ฝ่ายบริการลูกค้า และฝ่ายการเงินเพิ่ม ขณะนั้นอีเบย์ดำเนินงานอยู่ที่ออฟฟิศพาร์กในเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย สำนักงานเรียบง่ายไม่มีพิธีรีตอง พนักงานต่อโต๊ะกันเองและนั่งทำงานบนเก้าอี้ชายหาด งานเลิกเวลา 15.00 น.เพื่อเอาใจพวกแฟนฟุตบอล
ในปี 2540 โอมิดยาร์ตั้งบริษัทร่วมทุนเบนช์มาร์ก แคพิทัล (ทุนจดทะเบียนขั้นต้น 6.5 ล้านเหรียญ ขณะนี้มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญ) หนึ่งเดือนก่อนนำอีเบย์เข้าตลาดหลักทรัพย์ โอมิดยาร์ก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร โดยให้ เม็ก วิตแมน ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารของแฮสโบรขึ้นดำรงตำแหน่งแทน วันที่ 24 กันยายน 2541 อันเป็นวันแรกที่หุ้นเข้าตลาด ราคาหุ้นพุ่งจาก 18 เหรียญเป็น 47 เหรียญ พนักงานของอีเบย์ ร่ำรวยในพริบตา (โอมิดยาร์ถือหุ้นร้อยละ 30 ในฐานะเจ้าของ และมูลค่าหุ้นเพิ่มเป็นประมาณ 4,000 ล้านเหรียญ)
จากนั้นอีเบย์ก็มีเรื่องให้สะดุ้งสะเทือนบ้าง จากการประโคมข่าวของพวกนักข่าวมือไว เช่น ไฟฟ้าดับ 21 ชั่วโมงในเดือนมิถุนายน 2542 รายการทอล์กโชว์ภาคดึกนำเรื่องการประมูลอันน่าขายหน้า ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว หรืออาจกุกันขึ้นมาล้อ เช่น คนประกาศขายไต (ราคาประมูลขึ้นไปถึง 5.7 ล้านเหรียญก่อนที่อีเบย์จะยกเลิกไป) ขายปืนบาซูกา หรือหนุ่มน้อยวัย 17 เปิดประมูลขายพรหมจรรย์ของตน เป็นต้น
กาวไซเบอร์สเปซ
ปัจจุบัน อีเบย์ยังคงเป็นอีกเว็บไซต์ที่อนาคตสดใสที่สุดในอินเทอร์เน็ต ลองคลิกเข้าไปดูการซื้อขายสินค้ามือสองจากทั่วโลก นาฬิกาแบบอาร์ตเดกโคที่คุณอยากได้มานาน มีให้ประมูลถึง 19 เรือน ของหรูหราก็มี (รถโรลส์รอยซ์) คุณอาจพบของเก่า (ฟันไดโนเสาร์) หรือของประหลาด (ป้ายระวังหนูบุก)
ปลายปี 2538 โอมิดยาร์เปิดเว็บไซต์การประมูลโดยใช้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ทางบ้าน ที่คิดค่าใช้จ่ายเพียง 30 เหรียญต่อเดือน ในตอนแรกทุกอย่างให้บริการฟรี แต่มีผู้สนใจมากจนผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตคิดเงินกับโอมิดยาร์เพิ่มเป็น 250 เหรียญต่อเดือน เขาจึงเริ่มคิดค่าธรรมเนียมในการนำเสนอสินค้าแต่ละชิ้น และหักเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้าจากราคาขายสุดท้าย
ค่าบริการที่ส่งไปทางจดหมายถึงโอมิดยาร์ในแต่ละวันอาจดูน้อยนิด บางฉบับมีเพียงเหรียญ 10 เซ็นต์ที่ติดบนกระดาษแข็งที่ส่งมา แต่ทว่ามีจดหมายเข้ามาเป็นกองพะเนิน ในเดือนแรก เขามีรายได้ 1,000 เหรียญซึ่งมากกว่าค่าดำเนินการเสียอีก โอมิดยาร์รู้ว่าเขากำลังเดินมาถูกทาง เมื่อใส่ปากกาเลเซอร์ราคา 30 เหรียญ ซึ่งระบุว่าใช้การไม่ได้ ไว้ในรายการประมูล โดยตั้งราคาเริ่มประมูลไว้ 1 เหรียญ การประมูลเริ่มขึ้นและคนสุดท้ายที่ได้ไป จะต้องจ่ายถึง 14 เหรียญ ขณะเดียวกันรายได้ของเว็บไซต์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็น 2,500 เหรียญในเดือนที่ 2 จากนั้นเป็น 5,000 เหรียญ และ 10,000 เหรียญ ในอดีต
รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา
ในไม่ช้าโอมิดยาร์ก็พบว่า เขาตกอยู่ในฐานะคนกลางระหว่างปัญหาของผู้ซื้อกับผู้ขาย โอมิดยาร์เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันฉันมิตร เขาตัดสินใจว่าถ้าสมาชิกอีเบย์อยากร้องทุกข์ ก็ควรทำอย่างเปิดเผยบนเว็บไซต์ และถ้าผู้ค้าขายจะต่อว่าคนที่ไม่ชอบ ก็ควรจะชมเชยคนที่ชอบด้วย
และนั่นคือจุดกำเนิดของเวทีสะท้อนความคิด (Feedback Forum) หนึ่งในบริการยอดนิยมของอีเบย์ ซึ่งมีปรัชญาว่า ทุกคนเป็นคนดี หากใครทำผิด ก็ควรได้รับประโยชน์จากการรู้ถึงความผิดนั้นด้วย "ผมกลัวว่ามันจะกลายเป็นเวทีที่มีแต่คนบ่น แต่แปลกใจที่พบว่า ผู้คนชอบชมเชยกันมากกว่า" เขากล่าว
ไม่นานนักโอมิดยาร์ก็ชวน เจฟ สโกล ซึ่งจบปริญญาโทการบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมาร่วมงานด้วย พวกเขาจ้างเจ้าหน้าที่เทคนิค ฝ่ายบริการลูกค้า และฝ่ายการเงินเพิ่ม ขณะนั้นอีเบย์ดำเนินงานอยู่ที่ออฟฟิศพาร์กในเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย สำนักงานเรียบง่ายไม่มีพิธีรีตอง พนักงานต่อโต๊ะกันเองและนั่งทำงานบนเก้าอี้ชายหาด งานเลิกเวลา 15.00 น.เพื่อเอาใจพวกแฟนฟุตบอล
ในปี 2540 โอมิดยาร์ตั้งบริษัทร่วมทุนเบนช์มาร์ก แคพิทัล (ทุนจดทะเบียนขั้นต้น 6.5 ล้านเหรียญ ขณะนี้มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญ) หนึ่งเดือนก่อนนำอีเบย์เข้าตลาดหลักทรัพย์ โอมิดยาร์ก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร โดยให้ เม็ก วิตแมน ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารของแฮสโบรขึ้นดำรงตำแหน่งแทน วันที่ 24 กันยายน 2541 อันเป็นวันแรกที่หุ้นเข้าตลาด ราคาหุ้นพุ่งจาก 18 เหรียญเป็น 47 เหรียญ พนักงานของอีเบย์ ร่ำรวยในพริบตา (โอมิดยาร์ถือหุ้นร้อยละ 30 ในฐานะเจ้าของ และมูลค่าหุ้นเพิ่มเป็นประมาณ 4,000 ล้านเหรียญ)
จากนั้นอีเบย์ก็มีเรื่องให้สะดุ้งสะเทือนบ้าง จากการประโคมข่าวของพวกนักข่าวมือไว เช่น ไฟฟ้าดับ 21 ชั่วโมงในเดือนมิถุนายน 2542 รายการทอล์กโชว์ภาคดึกนำเรื่องการประมูลอันน่าขายหน้า ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว หรืออาจกุกันขึ้นมาล้อ เช่น คนประกาศขายไต (ราคาประมูลขึ้นไปถึง 5.7 ล้านเหรียญก่อนที่อีเบย์จะยกเลิกไป) ขายปืนบาซูกา หรือหนุ่มน้อยวัย 17 เปิดประมูลขายพรหมจรรย์ของตน เป็นต้น
กาวไซเบอร์สเปซ
ปัจจุบัน อีเบย์ยังคงเป็นอีกเว็บไซต์ที่อนาคตสดใสที่สุดในอินเทอร์เน็ต ลองคลิกเข้าไปดูการซื้อขายสินค้ามือสองจากทั่วโลก นาฬิกาแบบอาร์ตเดกโคที่คุณอยากได้มานาน มีให้ประมูลถึง 19 เรือน ของหรูหราก็มี (รถโรลส์รอยซ์) คุณอาจพบของเก่า (ฟันไดโนเสาร์) หรือของประหลาด (ป้ายระวังหนูบุก)
เหตุใดอีเบย์จึงประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวาง ปัจจัยหลักคืออีเบย์เป็นเว็บไซต์แรกในประเภทนี้ จึงครองใจผู้ซื้อและผู้ขายได้ก่อนใคร แต่ความฉลาดสุดยอดที่แท้จริงก็คือ ความสำเร็จในการสร้าง "ชุมชนซึ่งอาจเหมือนจริงมากที่สุดขึ้นในเว็บไซต์" วิตแมนกล่าว มีการเข้าชมถึง 2,400 ล้านครั้งต่อเดือน (page visit per month) ถ้าเคล็ดลับความสำเร็จของอินเทอร์เน็ตต้องอาศัยความเหนียวแน่นของบรรดาแฟนๆ วัดจากเวลาผู้ใช้อยู่ในเว็บไซต์ อีเบย์นับเป็นกาวที่เหนียวหนืดแห่งไซเบอร์สเปซทีเดียว ผู้เข้าชมอีเบย์แต่ละคนใช้เวลาโดยเฉลี่ย 1 ชม. 45 นาที ในแต่ละเดือน ขณะที่เว็บไซต์ Amazon ใช้เวลาเพียง 13 นาที
นอกจากนี้ อีเบย์ได้เปิดตัว เกรตคอลเล็กชันส์ (eBay Great Collection) สำหรับวัตถุโบราณและของสะสมสวยงามอีเบย์เริ่มเปิดตลาดระดับภูมิภาคสำหรับสินค้าท้องถิ่น เช่น รถยนต์และบัตรคอนเสิร์ต แต่สิ่งที่อีเบย์หวังอย่างยิ่งก็คือ การเป็นเว็บไซต์ระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันอีเบย์ได้มีการให้บริการในเว็บไซต์ย่อยในแต่ละภาษากว่า 30 ประเทศทั่วโลก
คำตอกย้ำของบริษัทที่ว่า "อีเบย์อยู่ทุกหน ทุกแห่ง" เห็นจะเป็นความจริง และโอมิดยาร์เชื่อว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ "ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น"
นอกจากนี้ อีเบย์ได้เปิดตัว เกรตคอลเล็กชันส์ (eBay Great Collection) สำหรับวัตถุโบราณและของสะสมสวยงามอีเบย์เริ่มเปิดตลาดระดับภูมิภาคสำหรับสินค้าท้องถิ่น เช่น รถยนต์และบัตรคอนเสิร์ต แต่สิ่งที่อีเบย์หวังอย่างยิ่งก็คือ การเป็นเว็บไซต์ระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันอีเบย์ได้มีการให้บริการในเว็บไซต์ย่อยในแต่ละภาษากว่า 30 ประเทศทั่วโลก
คำตอกย้ำของบริษัทที่ว่า "อีเบย์อยู่ทุกหน ทุกแห่ง" เห็นจะเป็นความจริง และโอมิดยาร์เชื่อว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ "ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น"
ปัจจุบันอีเบย์เป็นบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 15,000 คน ช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา eBay กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา จากการจัดอันดับของ Fortune 500 และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกจดจำได้มากที่สุดของโลก