BumQ 4

โศกนาฏกรรมช้างไทย (ตอนที่ 2)

ย้อนหลังราวหนึ่งศตวรรษ ประเทศไทยมีป่าไม้ถึงร้อยละ 90 ของพื้นที่ทั้งหมดและมีช้างมากถึง 300,000 ตัว ซึ่งหนึ่งในสามได้รับการฝึกอย่างดีจนใช้งานได้หลายอย่าง วิถีชีวิตดั้งเดิมของไทยผูกพันกับช้างอย่างแยกไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือคนธรรมดา

ปัจจุบัน พื้นที่ป่าในไทยเหลือไม่ถึงร้อยละ 20 และจำนวนช้างก็ลดลงอย่างน่าใจหาย ช้างโขลงใหญ่ๆเริ่มหายไปเมื่อชาวบ้านรุกคืบเข้าไปถางป่าและยึดครองทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ ช้างป่าที่เหลืออยู่ไม่มากต้องถ่อยร่นเข้าไปอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ เพราะพื้นที่เหล่านั้นอยู่ใต้อิทธิพลของพวกบุกรุกและลักลอบตัดไม้ทำลายป่า

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อพวกทำไม้เถื่อนใช้ช้างเป็นเครื่องมือทำลายป่า แถมบังคับให้ชักลากท่อนซุงในเขตป่าสงวนกว้างใหญ่ ซึ่งเหลืออยู่ไม่กี่แห่งในไทย อย่างเช่น ผืนป่าขนาด 1,600 ตารางกิโลเมตรของอุทยานแห่งชาติสาละวินกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินในบริเวณชายแดนไทยกับพม่า ธุรกิจการทำไม้เถื่อนในป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยการฉ้อฉล การติดสินบน และความตายของทั้งคนและช้าง

การลักลอบตัดไม้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2532 เมื่อรัฐบาลประกาศปิดป่าเพราะตระหนักถึงปัญหาที่พื้นที่ป่าไม้ในประเทศลดลงอย่างรวดเร็ว คำสั่งปิดป่าทำให้ราคาไม้พุ่งพรวด ควาญและช้างลากไม้ทั่วประเทศก็ตกงาน ขณะที่ธุรกิจทำไม้เถื่อนเฟื่องฟู ควาญหลายคนซึ่งมีชีวิตแร้นแค้นอยู่แล้วเริ่มหมดหนทาง จึงจำใจเข้าร่วมขบวนการผิดกฎหมายแทนที่จะเลือกวิธีขาย ทอดทิ้ง หรือฆ่าช้าง

ช้างสามารถเข้าไปได้ทุกจุดที่เครื่องยนต์เข้าไม่ถึง แรงงานทาสสี่ขาเหล่านี้จึงมีความสำคัญยิ่งในการทำไม้เถื่อน ซึ่งต้องอาศัยอุปกรณ์พิเศษอย่างเช่น สปอตไลต์กำลังสูง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตาพร่าจนไม่สามารถไล่ติดตามจับกุมได้ และเครื่องมือทันสมัยที่สามารถดักจับสัญญาณคลื่นวิทยุของตำรวจ ช้างมักบาดเจ็บเพราะถูกบังคับให้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ความเหน็ดเหนื่อยรุนแรงทำให้ช้างเลือดตกและอ่อนแอถึงขั้นล้มป่วยง่าย

หมอปรีชากล่าวว่า อุตสาหกรรมไม้เถื่อนเฉพาะในภาคเหนือของไทยต้องใช้แรงงานช้างไม่ต่ำกว่า 1,500 เชือก แม้สภาพการทำงานจะเลวร้ายแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ หากเจ้าหน้าที่ปราบปรามไม้เถื่อนสำเร็จ ช้างก็ต้องตกงานและหมดประโยชน์ จำนวนก็จะยิ่งน้อยลงตามไปด้วย

"ทางออกที่พอจะเป็นไปได้ทางเดียวคือการท่องเที่ยว" "ถ้าธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี ช้างจะมีความสุขตามอัตภาพ เพราะได้อยู่ในสภาพธรรมชาติที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์"

ารท่องเที่ยวด้วยช้างเริ่มเป็นที่นิยมเมื่อไม่กี่ปีมานี้ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งช้างชมซากเมืองโบราณศึกษาความเป็นอยู่ของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆในดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ หรือท่องเส้นทางรถไฟสายมรณะในจังหวัดกาญจนบุรี

เช้าวันหนึ่ง อากาศเย็นสบายที่ปางช้างแม่แตงไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี กำลังปีนขึ้นหลังช้างจำนวนสิบเชือกอย่างทุลักทุเลระคนความตื่นเต้นที่จะได้นั่งช้างชมทิวทัศน์อัดงดงามของหุบเขาละแวกนั้น เกราะไม้ที่คอช้างส่งเสียงกังวาน


"ไปๆ" ควาญไสบังคับเมื่อช้างทำท่าอยากหยุดกินใบไม้ข้างทางแทนที่จะเดินต่อ ไม่มีใครใส่ใจฝึกลูกช้างวัยเก้าขวบที่เดินพันแข้งพันขาแม่ช้างตลอดการเดินทางและวิ่งตรงเข้าหานักท่องเที่ยวที่ลงจากหลังช้างเพื่อขอกล้วย

"การฝึกช้างต้องอาศัยความรัก" แสงเดือนชัยเลิศ เจ้าของปางช้างแม่แตง กล่าวพลางทอดสายตามองฝูงช้างเล่นน้ำในลำธารที่ไหลผ่านปางช้าง เธอรู้เหมือนที่คนอื่นๆรู้ว่าการฝึกช้างต้องอาศัยวินัยและความรัก แต่วินัยที่ว่านี้ต้องสมดุลกับการให้รางวัลเมื่อช้างมีพฤติกรรมดี แสงเดือนวางกฎไว้อย่างเคร่งครัดคือ ช้างต้องทำงานไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง และมีคนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จะเฆี่ยนหรือสับด้วยตะขอก็ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น

ทุกครั้งที่เช่าหรือซื้อช้าง แสงเดือนจะพยายามจ้างควาญคนเดิมให้ดูแลช้างต่อไป เพื่อรักษาความผูกพันระหว่างควาญกับช้างที่สั่งสมมาตลอดชีวิต เธอชอบไปหาซื้อลูกช้างตามชายแดนไทยกับพม่า ช้างที่แข็งแรงอายุระหว่าง 8-12 ปีมีราคาประมาณ 350,000 บาท ช้างบ้านแถบชายแดนที่มีการทำไม้มักได้รับการ ปฎิบัติอย่างโหดร้าย บริเวณนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวกะเหรี่ยงซึ่งสืบทอดความรู้เรื่องช้างและตำนานต่างๆเกี่ยวกับสัตว์ประเภทนี้

ความผูกพันที่มีมาแต่อดีตระหว่างคนกับช้างในไทยยังสืบเนื่องมาจากราชประเพณี "ขนบธรรมเนียมในเรื่องช้างเผือก หลงเหลืออยู่ในไทยเพียงแห่งเดียว ในประเทศอื่นๆ เช่น พม่า ลาว กัมพูชา ประเพณีแบบนี้สูญหายไปหมดแล้ว" นายสัตวแพทย์ หม่อมหลวงพิพัฒนฉัตร ดิศกุล กล่าวในฐานะผู้ดูแลโรงช้างต้นในพระตำหนักจิตรลดา
ตลาดออนไลน์ !